โปลิศสอบพัวพันคดีทำร้ายแข้งหญิงเปแอสเช

 

เอริค อบิดาล อดีตกองหลังทีมชาติฝรั่งเศส

เตรียมถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวไปสอบสวนแล้วกรณีต้องสงสัยว่าอาจมีส่วนพัวพันกับคดีฉาวนักเตะทีมหญิงของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ถูกกล่าวหาว่าจ้างวานสองชายฉกรรจ์ให้ทำร้ายเพื่อนร่วมทีมอบิดาล อดีตขุนพลทีม บาร์เซโลน่า ซึ่งได้แชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก สองหนกับทีมดังของ ลา ลีกา ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอาจมีเอี่ยวกับเหตุรุนแรงที่

เคร่า ฮัมราอูนี่ แม่เนื้อนิ่มวัย 31 ปีของทีม เปแอสเช ถูกชายสวมหน้ากากใช้แท่งเหล็กทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บมีแผลแตกเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ซึ่งทำให้ อามินาต้า ดิยัลโล่ ทีมเมทของเธอถูกนำตัวไปคุมขังเมื่อสัปดาห์ก่อน ดูบอล อย่างไรก็ดี ถึงขณะนี้ ดิยัลโล่ ได้รับการปล่อยตัวแล้วโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ตั้งข้อหาอะไรตามกฏการควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ไม่เกิน 36 ชั่วโมง แม้ว่าเธอจะถูกระบุว่าจ้างวานให้คนทำร้ายเพื่อนร่วมทีมเพื่อประโยชน์ในการได้ตำแหน่งในทีมตัวจริง “เราหวังว่าอัยการจะสรุปสำนวนได้โดยเร็ว และมั่นใจว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์” ทนายของ ดิยัลโล่ ดาวเตะวัย 26 ปีเอ่ย สำหรับ ฮัมราอูนี่ ข่าวแจ้งว่าถูกคนร้ายกระชากลงจากรถ และต่อยเธอ เตะเธอ ตลอดจนใช้แท่งเหล็กฟาดใส่เธอด้วย

กระทั่งล่าสุดเมื่อ 15 พ.ย.  Le Monde รายงานว่า อบิดาล ถูกตรวจสอบพบว่าอาจมีความเชื่อมโยง

กับเหตุฉาวดังกล่าวเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบหมายเลขโทรศัพท์ของเขาในมือถือของ ฮัมราอูนี่ โดยอดีตกองหลังเฟรนช์แมนเคยนั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการกีฬาของ บาร์ซ่า ระหว่างปี 2018-2020 ขณะที่ ฮัมราอูนี่ เหยื่อที่ถูกทำร้ายเคยค้าแข้งกับทีมดังของกาตาลันตั้งแต่ปี 2018 จนถึงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

นอกจาก อบิดาล ซึ่งถูกพบว่า ฮัมราอูนี่ โทรศัพท์ไปหาเขาหนึ่งวันหลังจากเธอถูกทำร้าย นักเตะรายอื่นๆของ เปแอสเช ก็ถูกสอบสวนด้วย รวมทั้ง ฮาเยต ภรรยาของ อบิดาล ก็ถูกเรียกตัวไปเป็นพยานของคดีดังกล่าวทั้งนี้ สื่อเจ้าดังกล่าวเชื่อว่าคดีฉาวอาจเป็นปัญหาทางด้านชู้สาวซะมากกว่าหลังจาก ฮัมราอูนี่ โทรไปหา อบิดาล อดีตพ่อค้าแข้งวัย 42 ปีซึ่งแต่งงานกับ ฮาเยต มาตั้งแต่ปี 2003 และมีลูกด้วยกันห้าคนเนื่องจากมีการระบุว่าคนร้ายได้ตะโกนประโยค “แกชอบหลับนอนกับผู้ชายที่แต่งงานแล้ว” ก่อนลงมือทำร้ายเธอ อนึ่ง ถึงขณะนี้ ฮัมราอูนี่ ยังไม่ถูกต้นสังกัดส่งลงสนาม และเป็น ดิยัลโล่ ที่ได้ออกสตาร์ตแทน

ขณะที่ ดิยัลโล่ ซึ่งเดินทางมาด้วยกันในฐานะคนขับรถพาเพื่อนร่วมทีมกลับบ้านหลังกินอาหารในภัตตาคารมาด้วยกันถูกคนร้ายอีกรายฉุดรั้งไว้ และไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ก่อนที่สองคนร้ายจะวิ่งหนีไปปล่อยให้เหยื่อต้องเข้ารับการเย็บแผลที่ขาและมือในโรงพยาบาล